หมอดังฟ้องหย่าเมียนางงาม หลังย่องขายบริการเศรษฐี!

หมอดังฟ้องหย่าเมียนางงาม หลังย่องขายบริการเศรษฐี!

หมอ ศัลยแพทย์ชื่อดังในสหรัฐฯ ฟ้องหย่า เมีย อดีตนางงาม หลังจับได้ว่าเธอแอบย่องไปขายบริการให้กับเศรษฐี เผย ทำมาตั้งแต่ก่อนแต่งงานแล้ว! หมอฟ้องหย่าเมียขายบริการ – กลายเป็นประเด็นดังไปทั่วโลกโซเชียลตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา หลังจากที่มีข่าวของ ‘ดร.ฮัน โจ คิม’ วัย 41 ปี ศัลยแพทย์ชื่อดังในสหรัฐอเมริกา ฟ้องหย่าเมีย ‘เรจินา เทิร์นเนอร์’ วัย 32 ปี อดีตนางงามเวที ‘มิสคอนเนตทิคัต’ ปี 2011 หลังจับได้ว่าเธอแอบย่องไปขายบริการทางเพศให้กับเหล่าบรรดาเศรษฐี

โดยทางสำนักข่าว ‘นิวยอร์กโพสต์’ และ ‘นิวยอร์กเดลินิวส์’ รายงานว่า 

หมอคนดังกล่าวอ้างว่า เจ้าตัวเห็นแชตลับของภรรยาที่กำลังพูดคุยกันในเรื่องเพศกับชายคนอื่น ผ่านทางแอปพลิเคชัน ‘iMessage’ ในคอมพิวเตอร์ที่บ้าน หลังจากนั้นเขาก็พบเรื่องที่ภรรยาโกหกเขาอีกมากมาย จนกระทั่งเดือนธันวาคม 2020 เขาได้ตัดสินใจฟ้องหย่ากับภรรยา โดยอ้างว่า เธอแอบขายบริการทางเพศเพื่อแลกกับเงินมาตั้งแต่ก่อนที่จะแต่งงานกัน และยังคงทำต่อเนื่องแม้ว่าจะอยู่กินกันแล้วก็ตาม ในขณะที่เขาเองก็ยังคงทำหน้าที่ในฐานะสามีที่ดีด้วยการดูแลและให้เงินเลี้ยงดูเธอ

ในรายงานการฟ้องร้องยังได้เปิดเผยข้อมูลวีรกรรมของทางภรรยาอีกว่า ตั้งแต่ตอนที่ออกเดตกันฝ่ายหญิงบอกกับเขาว่าเธอทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาแอปพลิเคชัน โดยมีรายได้จากมรดกของคุณย่า 500,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 16 ล้านบาท) แต่แท้จริงแล้วเงินที่เธอได้เงินมาจากการขายบริการทางเพศ

ทั้งคู่แต่งงานกันเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2015 จนกระทั่งแยกทางกันในเดือน เมษายน 2020 โดยทางคุณหมอ ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2015-2022 ภรรยาของเขามีเงินสดฝากในบัญชีส่วนตัวถึง 675,030 ดอลลาร์ (ประมาณ 22 ล้านบาท) โดยเป็นเช็คจำนวนมากที่มาจากลูกค้านักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ และผู้บริหารบริษัทออกแบบไฟในสหราชอาณาจักร

แทมมี ดักเวิร์ธ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ เชื้อสายไทย ได้เปิดเผยว่าทางการสหรัฐฯบริจาควัคซีนให้ประเทศไทย รวม 2.5 ล้านโดส สำนักข่าว วอยซ์ออฟอเมริกา รายงานว่า พันโทหญิง ลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ เชื้อสายไทยได้กล่าวในพิธีเปิดงานเสวนาออนไลน์ว่าทางการสหรัฐเตรียมส่งวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ให้ไทยทั้งสิ้น 2.5 ล้านโดส โดยจัดส่งชุดแรกให้เป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านโดส

โดยพันโทหญิง ลัดดา แทมมี กล่าวว่า “เราตระหนักดีว่าโรคระบาดไม่จำกัดพรมแดน หากเกิดเหตุฉุกเฉินทางสาธารณสุขในภูมิภาคหนึ่งจะไม่มีภูมิภาคใดที่ปลอดภัย ดิฉันทราบถึงประกาศล่าสุดที่เราส่งวัคซีนโควิดไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านโดส (ให้แก่ไทย) ซึ่งที่จริงแล้วจะมีทั้งสิ้น 2.5 ล้านโดส แต่การจัดส่งชุดแรกมีวัคซีน 1.5 ล้านโดส”

“ดิฉันรู้สึกยินดีที่จะประกาศวันนี้ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ มีความมุ่งมั่นเพื่อส่งมอบวัคซีนอย่างน้อย 1.5 ล้านชุดให้ประเทศไทย เพื่อช่วยให้ประชาชนชาวไทยเอาชนะปัญหาโควิด-19 ขณะที่การระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตากำลังเพิ่มมากขึ้นทั่วโลก โดยการบริจาควัคซีนของสหรัฐฯ ซึ่งมีประสิทธิผลสูงนี้ไม่มีเงื่อนไขข้อจำกัดใด ๆ ทั้งสิ้น แต่มีขึ้นด้วยความเข้าใจว่าจะไม่มีประเทศใดที่ปลอดภัยจากโควิด-19 ได้อย่างสมบูรณ์จนกว่าทุกประเทศจะปลอดภัย”

ก่อนหน้านี้ทางการสหรัฐฯได้บริจาควัคซีนไฟเซอร์เป็นจำนวน 1.5 ล้านโดส โดยในจำนวนดังกล่าวจะถูกไปนำมอบให้เจ้าหน้าที่แพทย์เพื่อนำไปฉีดเป็นวัคซีนเข็มสามและเป็นการกระตุ้นภูมิต้านทานป้องกันโควิด

อลาสกา แผ่นดินไหว ระดับ 8.2 สั่งเตือนภัยระวังสึนามิ

เกิดเหตุ แผ่นดินไหว ระดับ 8.2 ที่รัฐ อลาสกา ส่งผลให้ทางศูนย์สึนามิของสหรัฐฯสั่งเตือนภัยเฝ้าระวังสึนามิ ขณะที่กำลังประเมินคำเตือนในบริเวณชายฝั่งอื่นๆ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม สำนักข่าว CNN รายงานว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวระดับ 8.2 ที่รัฐอลาสกา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.15 น. ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ

โดยจุดศูนย์กลางอยู่ห่างจากเพอร์รีวิลล์ รัฐอลาสกา ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 91 กิโลเมตร และลึกลงไปใต้ทะเลกว่า 35 กิโลเมตรในคาบสมุทรอลาสก้า โดยแผ่นดินไหวครั้งนี้นับเป็นแผ่นดินไหวที่ตื้น

อย่างไรก็ตามจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ ทำให้ทางศูนย์เตือนภัยสึนามิแห่งชาติออกคำสั่งเตือนภัยสึนามิ บริเวณพื้นที่ทางตอนใต้บริเวณคาบสมุทรอลาสกา และไปถึงพื้นที่ชายฝั่งแปซิฟิก ขณะที่ทางศูนย์เตือนภัยสึนามิกำลังประเมินคำเตือนภัยไปยังพื้นที่ชายฝั่งอื่นๆ ของสหรัฐฯ และแคนาดา⁣

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีใต้ หรือ KCDC ได้ออกมาเปิดเผยผลการวิจัย ฉีดวัคซีนผสมสูตร แอสตร้าฯ+ไฟเซอร์ เพิ่มภูมิต้านทานโรคโควิดได้

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน สำนักข่าว รอยเตอร์ ได้รายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีใต้ (KCDC) ได้ออกมารายงานถึงผลการวัคซีนผสมสูตรระหว่าง แอสตร้าเซเนก้า เข็มที่หนึ่งและ ไฟเซอร์ เข็มที่สอง สามารถช่วยเพิ่มระดับแอนติบอดีชนิด Neutralizing Antibody ได้ถึง 6 เท่า เมื่อเทียบกับการฉีดแอสตร้าเซเนกาสองเข็ม

การศึกษานี้มีกลุ่มตัวอย่างเป็นบุคลากรทางการแพทย์ 499 คน โดย 100 คนในนี้ได้รับวัคซีนสลับยี่ห้อ อีก 200 คนฉีดวัคซีนไฟเซอร์สองโดส และที่เหลือ 199 คนได้รับวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าสองโดส

โดยในกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด พบว่ามีการสร้างแอนติบอดี Neutralizing Antibody เหมือนกัน ซึ่งป้องกันไม่ให้ไวรัสเข้าสู่เซลล์และจำลองตัวเองได้ และพบว่า ในกลุ่มที่ได้รับการฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อ จะมีปริมาณแอนติบอดีสูงเทียบเท่ากับกลุ่มที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์สองโดส

เครดิต : รีวิวซีรี่ย์เกาหลี | ลายสัก | รีวิวร้านอาหาร | โทรศัพท์มือถือ ราคาถูก | เรื่องย่อหนัง