กองทัพเมียนมา ออกมาขอความช่วยเหลือจากต่างชาติ หลังจากที่ โควิดเมียนมา วิกฤติหนัก ยอดผู้ป่วยเพิ่มสูงต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 28 ก.ค. สำนักข่าว ชาแนลนิวส์เอเชีย ได้รายงานโดยอ้างอิงจากสื่อในประเทศเมียนมาว่ากองทัพกำลังขอความช่วยเหลือจากต่างชาติ หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เลวร้ายลงอย่างต่อเนื่อง
พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ผู้นำเมียนมา
กล่าวว่าขณะนี้รัฐบาลได้หารือกับประเทศในกลุ่มอาเซียน และ ประเทศที่เป็นมิตร เพื่อขอความร่วมมือในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 อย่างไรก็ตามหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นไม่ได้อธิบายในประเด็นนี้เพิ่มเติม ประเทศเมียนมาเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากนับตั้งแต่กองทัพก่อรัฐประหารเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เนื่องจากเจ้าหน้าที่หยุดทำงานเพื่อประท้วงการก่อรัฐประหาร ทำให้ประเทศเมียนมาขาดแคลนทั้งบุคลากรและอุปกรณ์ทางการแพทย์
โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมาทางการเมียนมาพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เกือบ 5 พันราย และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 350 ศพ อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ายอดผู้ป่วยและจำนวนผู้เสียชีวิตจริงสูงกว่าที่รายงาน
นอกจากนี้ ยังไม่พบว่ามีกลุ่มใดที่มีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อลดลงเมื่อเจอกับสายพันธุ์อัลฟา อย่างไรก็ตาม พบว่าประสิทธิภาพลดลง 2.5-6 เท่า เมื่อเจอกับสายพันธุ์เบตา แกมมา และเดลตา
โดยการผลทดลองครั้งนี้ออกมาในทิศทางเดียวกันกับการศึกษาของอังกฤษเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นผลลัพธ์ที่คล้ายคลึงกัน โดยการศึกษาดังกล่าวพบว่า การฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าตามด้วยไฟเซอร์ ทำให้เกิดการตอบสนองของ T-cell ที่ดีที่สุด สูงกว่าการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ก่อนแล้วค่อยตามด้วยแอสตร้าเซเนก้า
กรมศุลกากรฮ่องกงดำเนินการต่อต้านยาเสพติดเป็นชุดระหว่างวันที่ 12 กรกฎาคมถึงเมื่อวาน (24 กรกฎาคม) และตรวจพบคดีค้ายาเสพติดอันตราย 3 คดี จับกุมยาเสพติดอันตรายซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 230 ล้านดอลลาร์ในหลายเขตและสนามบินนานาชาติฮ่องกง (HKIA) การจับกุมครั้งนี้รวมถึงยาบ้าที่ต้องสงสัยว่าเป็นของเหลวประมาณ 145 กิโลกรัม โคเคนต้องสงสัย 72 กิโลกรัม และต้องสงสัยว่าเป็นเฮโรอีน 61 กิโลกรัม ชาย 4 คนและผู้หญิง 1 คนอายุระหว่าง 31 ถึง 60 ปีถูกจับกุม
ในกรณีแรก เจ้าหน้าที่ศุลกากรบุกเข้าไปในอาคารโรงงานอุตสาหกรรมในเมือง Fo Tan เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม โดยยึดโคเคนต้องสงสัยประมาณ 72 กิโลกรัม ซึ่งมีมูลค่าตลาดประมาณ 85 ล้านดอลลาร์ จากขวดพลาสติกที่ติดฉลากว่าเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ การสอบสวนติดตามผลนำไปสู่การจับกุมชายวัย 43 ปีในเมือง Sha Tin เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ซึ่งต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับคดีนี้ การสอบสวนยังดำเนินอยู่ ชายที่ถูกจับได้รับการประกันตัวแล้ว รอการสอบสวนเพิ่มเติม
ในกรณีที่สอง เจ้าหน้าที่ของ HKIA ได้ตรวจสอบสินค้าขนส่งทางอากาศที่ประกาศว่าเป็นน้ำมันอาหารอะโวคาโดมาจากเม็กซิโกเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม โดยยึดยาบ้าเหลวต้องสงสัยประมาณ 145 กิโลกรัม ซึ่งมีมูลค่าตลาดประมาณ 80 ล้านดอลลาร์จากขวดแก้ว 288 ขวด แต่ละขวด บรรจุยาต้องสงสัยประมาณ 500 กรัม การสอบสวนภายหลังส่งผลให้มีการจับกุมชายวัย 60 ปีในเมือง Tsing Yi เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม การสอบสวนยังดำเนินอยู่
ในกรณีที่สาม เจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจสอบสินค้าทางทะเลที่ประกาศว่าเป็นขนมที่เดินทางมาจากประเทศไทยเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พบเฮโรอีนต้องสงสัยประมาณ 61 กิโลกรัม ซึ่งมีมูลค่าตลาดประมาณ 65 ล้านเหรียญสหรัฐ ถูกซ่อนไว้ในซองใส่เครื่องปรุงรสบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ชาย 2 คนและหญิง 1 คน อายุระหว่าง 31-42 ปี ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ ถูกจับกุมที่แควจุงเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ผู้ถูกจับกุมถูกตั้งข้อหาพยายามค้ายาอันตราย 1 กระทง พวกเขาจะนำตัวตัวที่ศาลตุนมูลในวันพรุ่งนี้ (26 กรกฎาคม)
ภายใต้กฎหมายว่าด้วยยาอันตราย การค้ายาอันตรายถือเป็นความผิดร้ายแรง โทษสูงสุดเมื่อมีการตัดสินลงโทษคือปรับ 5 ล้านเหรียญสหรัฐและจำคุกตลอดชีวิต
WHO ยัน วัคซีน mRNA ปลอดภัย ไม่เปลี่ยน DNA ผู้รับวัคซีน
องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ออกมาไขข้อสงสัยถึงความ ปลอดภัย ของวัคซีนชนิด mRNA ว่าปลอดภัยแน่นอน และไม่เปลี่ยน DNA ผู้รับวัคซีน องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กอธิบายถึงวัคซีนโควิดชนิด mRNA หรือสารพันธุกรรมที่อยู่ในเซลล์ของร่างกายทำหน้าที่ออกคำสั่งให้เซลล์ผลิตโปรตีนขึ้นตามรหัสคำสั่ง
โดยทางองค์การอนามัยโลกยืนยันว่าวัคซีนชนิดดังกล่าวมีความปลอดภัยเทียบเท่าวัคซีนชนิดอื่น พร้อมยืนยันว่าไม่สามารถเปลี่ยนพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) ของผู้ได้รับวัคซีนได้ ซึ่งวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีดังกล่าว ได้แก่ วัคซีนจากบริษัท โมเดอร์นา และ ไฟเซอร์ เป็นต้น
ผู้กำกับพิธีเปิดโอลิมปิก ถูก ปลด หลังมีคลิปเมื่อยี่สิบปีก่อนเผยว่าเคยเล่นมุกตลกเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในช่วงยุคสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า นายเคนทาโร่ โคบายาชิ ผู้กำกับพิธีเปิดโอลิมปิก ถูกปลดออกจากตำแหน่ง หลังจากที่มีคลิปวิดีโอเมื่อ 23 ปีที่แล้วที่แสดงให้เห็นว่า นายโคบายาชิได้เล่นมุกตลกล้อเลียนการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ชาวยิวในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
โดยนายโคบายาชิได้กล่าวหลังพ้นตำแหน่งว่า ความบันเทิงต้องไม่ทำให้ผู้ฟังรู้สึกไม่สบายใจ และผมเข้าใจว่าคำพูดอันโง่เขลาของผมเป็นคำพูดที่ผิด และผมรู้สึกเสียใจกับการกระทำของผม
เครดิต : รีวิวซีรี่ย์เกาหลี | ลายสัก | รีวิวร้านอาหาร | โทรศัพท์มือถือ ราคาถูก | เรื่องย่อหนัง