อิมเมจ ฟาดแคมเปญจ้างอินฟลูฯ ชวนคนมีลูก สุดไร้สาระ

อิมเมจ ฟาดแคมเปญจ้างอินฟลูฯ ชวนคนมีลูก สุดไร้สาระ

อิมเมจ โพสต์ฟาด แคมเปญรัฐบาลสนับสนุนให้มีลูก สาธิต ผุดไอเดียจ้างอินฟลูเอนเซอร์ชวนคนมีลูก สุดไร้สาระ เอาเวลาไปคิดหาสาเหตุจริงๆ ก่อน ก่อนหน้านี้ นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ได้ออกมาพูดถึง การแก้ปัญหาเด็กไทยเกิดต่ำสุดในรอบ 50 ปี ซึ่งต้องเร่งดำเนินการแก้ไข โดยแผนงานเบื้องต้นได้มอบหมายให้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เชิญอินฟลูเอนเซอร์ที่มีความสุขสนุกในการเลี้ยงลูก มาเป็นตัวอย่างการวางแผนครอบครัว กระตุ้นให้คนอยากมีลูกกันมากขึ้น

“เรื่องการแก้ปัญหาผู้มีบุตรยากสิ่งสำคัญคือการปรับค่านิยม 

อาจจะไม่ใช่เรื่องของการให้เงินทั้งหมด เพราะมีตัวอย่าง เช่น สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ที่จ่ายเงิน 1 แสนบาทกรณีมีเด็กเกิด 1คน แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ต้องปรับเปลี่ยนนโยบาย ดังนั้นประเทศไทยก็ต้องคิดให้ครอบคลุมทั้งระบบ ทั้งเรื่องของสวัสดิการ และในระยะยาวตั้งแต่เกิด ถึงจบปริญญาจะมีการส่งเสริมให้มีครอบครัว และมีลูกที่มีคุณภาพได้ มีการวางแผนครอบครัว”

“หากเป็นวาระแห่งชาติ ต้องใช้งบประมาณเทเข้าไป ฉะนั้น ต้องช่วยกัน ในวันนี้มีเพียงชุดสิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมให้คนไทยมีลูก แต่ในอนาคตที่มีเรื่องค่าใช้จ่าย ก็ยังไม่กล้าพูดต้องใช้งบประมาณมากแค่ไหน แต่กล้าพูดว่ารัฐบาลให้ความสำคัญ ซึ่งต้องใช้เงินในการแก้ไขปัญหาด้วย”

ภายหลังแผนงานที่ รมช.สาธารณสุข ออกมากล่าวถึงเบื้องต้น ก็มีกระแสวิจารณ์พอสมควร โดยคนดังบางส่วนออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้ อาทิ “อิมเมจ” สุธิตา ชนะชัยสุวรรณ นักร้องสาวเสียงดี วลีเด็ด จากค่าย Smallroom ได้ออกมาพูดถึงแคมเปญดังกล่าว ว่า “เออ ไอ่แคมเปญที่จะจ้างอินฟลูที่มีลูกมาชักจูงให้คนมีลูกมากขึ้นนี่มันเป็นไอเดียที่ไร้สาระมากเลยอะ ไปคิดให้ออกก่อนว่าคนตัดสินใจไม่มีลูกกันมากขึ้นเพราะอะไร ไม่ใช่มาผุดโปรเจกต์ละลายงบเล่นแบบนี้”

เช่นเดียวกับ วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ ผู้บริหารสำนักข่าวออนไลน์ The Standard ที่มีการรีทวิตข่าวดังกล่าว พร้อมกับใส่คอมเมนต์ว่า “คิดอะไรตื้นๆ แค่นี้ก็เป็นรัฐมนตรีได้แล้ว” ขณะที่ความเห็นบนโลกโซเชียลส่วนใหญ่ก็มองคล้ายๆกันว่า การแก้ปัญหาน่าจะมีการค้นคว้าหาสาเหตุและแก้ไขที่ต้นเหตุจริงๆ จะดีกว่าหรือไม่

‘ขวัญ​ พิมพ์อัปสร’ อัปเดตอาการคุณพ่อ ‘สรพงษ์ ชาตรี​’ หลังป่วยเป็นโรค มะเร็ง ปอด เผย ตอนนี้หน้าตาสดใส เพราะกำลังใจดี หลังจากที่มีข่าวของนักแสดงรุ่นใหญ่ ‘เอก สรพงษ์ ชาตรี‘ วัย 73 ปี ป่วยเป็นโรคมะเร็งปอด จนแฟนคลับและเพื่อน ๆ ต่างแห่ให้กำลังใจ

วันนี้ (18 ก.พ.) ทาง ‘ขวัญ​ ​พิมพ์อัปสร เทียมเศวต‘ ลูกสาวของนักแสดงรุ่นใหญ่ก็ได้มีการออกมาโพสต์ข้อความอัปเดตอาการป่วยของคุณพ่อ ผ่านทางบัญชีเฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘Mom & Me Story‘ เผย ตอนนี้หน้าตาคุณพ่อสดใส เพราะกำลังใจดี โดยระบุว่า

“ขอบคุณทุกความห่วงใยล้นหลามที่ส่งมาให้คุณพ่อนะคะ คุณพ่อกำลังใจดีมาก หน้าตาสดใส แรงเยอะเหมือนเคย ชอบกินกับข้าวสมัยเด็กที่คุณป้าทำไปให้ และกระยาสารทของโปรดที่ขวัญเอาไป ฝากส่งกำลังใจให้คุณพ่อหายไวๆ ด้วยนะคะ”

พร้อมทั้งแนบแคปชั่นขอบคุณ​ บอก “ขอบคุณจากใจจริงๆ ค่ะ และขอโทษที่ไม่ได้บอกใคร ตามความประสงค์ของคุณพ่อที่ไม่อยากให้ใครเป็นห่วงนะคะ ขวัญยุ่งมากไม่ได้รับสายใครเลย ต้องขออภัยด้วยค่า”

‘นาดาว’ ลงดาบ คนคุกคาม ‘บิวกิ้น’ สั่งแบนไม่ให้ร่วมงานของค่ายอีกต่อไป

เจอตัวแล้ว! คนสะกดรอยตาม นักแสดงหนุ่ม ‘บิวกิ้น พุฒิพงศ์’ ด้านต้นสังกัต ‘นาดาว บางกอก’ สั่งแบนห้ามไม่ให้เข้าร่วมงานในค่ายอีก จากกรณีข่าวของนักแสดงหนุ่ม ‘บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล‘ ออกมาแจ้งข่าวหลังถูก บุคคลปริศนาขับรถสะกดรอยตาม ตั้งแต่เข้ายันออกจากบ้าน เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

ล่าสุด (17 ก.พ.) ทาง ‘นาดาว บางกอก‘ ต้นสังกัตของนักแสดงหนุ่มก็ได้มีการออกมาอัปเดตข่าวดังกล่าวหลังเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เผย คู่กรณีอ้างว่าไม่มีเจตนาประทุษร้ายแต่อย่างใด เบื้องต้นทางค่ายสั่งแบนห้ามไม่ให้บุคคลดังกล่าวเข้าร่วมงานในค่ายอีก โดยระบุว่า

“วันนี้ ทีมกฎหมาย และตัวแทนของบริษัท นาดาว บางกอก จำกัด ได้เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจสน. บางพลัด และคู่กรณี ที่ขับรถตาม นายพุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล (บิวกิ้น) นักแสดงในสังกัด

โดยหลังจากทางบริษัทฯ ลงประกาศไปก่อนหน้านี้ ทางคู่กรณีได้ติดต่อเข้ามา เพื่อชี้แจงว่า เป็นการกระทำที่ไม่ได้เกิดจากเจตนาประทุษร้ายแต่อย่างใด

จึงได้มีการนัดพบกันต่อหน้าเจ้าหน้าที่พนักงาน เพื่อหาข้อยุติ โดยมีผลการพูดคุย ดังนี้

1. คู่กรณี ยอมรับผิด และยืนยันว่าจะไม่กระทำการละเมิดความเป็นส่วนตัวของศิลปินอีก หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นอีกครั้ง ทางคู่กรณียินดีรับโทษสูงสุด

2. คู่กรณี จะไม่สามารถเข้าร่วมงานใด ๆ ของบริษัท นาดาว บางกอก จำกัด และบริษัท นาดาว มิวสิค จำกัดได้อีก

ทางนาดาว ขอขอบคุณผู้มีส่วนร่วมที่ช่วยเหลือประสานงานจนเกิดผลในวันนี้ รวมถึงอยากให้กรณีนี้เป็นตัวอย่าง ให้ทุกคนในสังคมปฏิบัติร่วมกัน โดยเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน”

คือมัดหมี่เป็นคนหนึ่งที่เชื่อในความรักอยู่แล้วไม่ได้เป็นคนที่จะปิดใจหรืออะไร รวมถึงตัวพี่สัวเองด้วย มัดหมี่เชื่อว่าถ้าวันหนึ่งเราได้เจอคนที่ใช่ทั้งสองคนก็โอเค แต่ว่าเราสองคนก็ยังเป็นคนที่จะดูแลกันจับมือกันเป็นพี่น้องกันตลอดไป

writeoutdoors32.com
pandorabraceletcharmsuk.net
averysmallsomething.com
legendofvandora.net
talesofglorybook.com
tvalahandmade.com
everyuktown.com
bestbodyversion.com
artedelmundoecuador.com
ellenmccormickmartens.com